วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ต้นไม้ใหญ่กับเด็กน้อยและความร่มเย็น



ณ ทุ่งโล่งแห่งหนึ่งมีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปี ต้นหนึ่งยืนต้นให้ความร่มเย็นแก่สรรพสัตว์น้อยใหญ่ที่แวะเวียนเข้ามาพักผ่อนใต้ต้นของเขา เป็นเวลานานที่เขาได้บรรเทาความร้อนให้ความเย็นสบายกับหลายชีวิต



จนวันนึงมีเด็กน้อยคนหนึ่งเดินเล่นมาพบกับต้นไม้ต้นนี้ เวลานั้นเป็นช่วงที่อากาศร้อนเด็กชายคนนั้นจึงเข้าไปหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น เค้านั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้และคิดในใจว่าเป็นต้นไม้นี่ดีเนอะสามารถให้ความร่มเย็นกับผู้อื่นได้ทำให้ผู้อื่นสบายกายร่ม

ทันใดนั้นเองต้นไม้ก็เปร่งเสียงออกมาว่าอยากเป็นเหมือนข้าไหมหละ เด็กน้อยตกใจยืนขึ้นและถามต้นไม้ว่าพูดกับผมหรอ
ต้นไม้หัวเราะ5555 ใช่พูดกับเจ้านั่นเหละ

ถ้าเจ้าอยากเป็นเหมือนข้าจงฟัง



ตอนข้าเด็กๆข้าเป็นแค่เมล็ดพันธุ์เม็ดเล็กๆที่อยู่ในดินกว่าข้าจะโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงานั้นต้องผ่านฤดูกาล ทั้งร้อน ทั้งฝน ทั้งหนาว หลายร้อยฤดูกาลผ่านไป ฤดูร้อนข้าออกใบ เป็นร่มเงาให้แก่ชีวิต ฤดูฝนข้าออกผล ให้สัตว์ต่างๆได้อิ่มท้อง 

แต่พอฤดูหนาวข้าผลัดใบ เพื่อเอาตัวรอดในธรรมชาติที่โหดร้ายนี้ ข้ามิได้ออกผลทั้งปี ข้ามิได้มีใบทั้งปี

มนุษย์ก็เช่นกันเจ้าต้องรู้จักก่อนว่าตัวเองมีความสามารถอะไร อะไรที่ถนัด คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวของตัวเอง ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นอยู่ในสถานการณ์ไหน ที่จะสามารถทำประโยชน์ได้

ถ้าเจ้าอยากให้ความร่มเย็นกับผู้อื่นแบบข้าเจ้าก็ทำโดยไม่จำเป็นต้องมีร่างกายที่ใหญ่โตแบบข้าเพียงเจ้าทำใจของเจ้าให้เย็น ผู้คนที่อยู่รอบๆตัวเจ้าก็จะเย็นตามไปด้วยเหมือนที่ข้ามีใบในฤดูร้อน

รู้จักการให้และการแบ่งบัน เหมือนข้าในฤดูฝน

จงทำประโยชน์ให้ผู้อื่นแต่สิ่งที่ทำนั้นจะต้องไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนเหมือนข้าที่รู้จักผลัดใบในฤดูหนาว

เมื่อฟังจบเด็กน้อยขอบคุณพี่ต้นไม้และบอกตัวเองว่าข้าจะเป็นแบบพี่ต้นไม้

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บทสนทนาแห่งดวงดาว

ณ ดาวในระบบสุริยะแห่งหนึ่งซึ่งมีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงนั้น




ใช่ครับดาวดวงนั้นคือโลก

ได้มีการถกเถียงกับดวงอาทิตและดวงจันท์ว่าใครที่ทำให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นและดำรงอยู่ เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ในจักวาล................

โลกประกาศต่อทุกดาวว่าฉันทำให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเกิดมา 

เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นที่ดาวของฉัน ฉันจะต้องได้เป็นใหญ่เป็นเวลาหลายร้อยล้านปีที่ฉันปรับสภาพและทำให้เกิดสมดุลจนทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต 

ฉันหมุนรอบตัวเองทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน และแรงดึงดูดของฉันทำให้ดวงจันทร์อย่างเจ้าไม่หลุดลอยเคว้งคว้างไปในจักวาล 

"ฉันจะต้องเป็นใหญ่ในจักวาลนี้"



ดวงจัทร์ก็บอกว่าฉันต่างหากที่จะต้องได้เป็นใหญ่ เพราะแรงดึงดูดของฉันทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลง เพราะผิวดาวของฉันสะท้อนแสงทำให้กลางคืนยังสว่างได้

พระอาทิตย์หัวเราะ "ฮ่าๆๆๆๆ ตลกพวกเจ้าทั้งสองดาวจริงๆ" 

ข้าต่างหากที่เป็นใหญ่ที่สุดในจักวาลนี้ ข้าให้พลังงานความร้อนทำให้เกิดแสงสว่าง 

และข้าทำให้เกิดฤดูต่างๆเจ้าโลกเอ้ยถ้าไม่มีข้าเจ้าจะไม่มีฤดูการ ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีความอบอุ่น เพราะเจ้าโคจรรอบตัวข้า



ทันใดนั้นเอง ขณะที่กำลังเถียงกันอยู่นั้น

ไดัมีดาวหางขนาดมหึมาเดินทางมาจากอีกฝากหนึ่งของจักวาล ได้ยินทั้งสามดาวเถียงกันอยู่นาน

"เจ้าทั้ง3ดาวจงเงียบ" ดาวหางเอ่ย

ข้าเดินมามาหลายล้านปีแสง

ข้าได้เห็นดาวอย่างเจ้า ดาวโลก ที่ไม่มีแสงอาทิตย์ เจ้าก็จะเป็นแค่ดาวที่หนาวเย็นไร้ซึ่งชีวิต

ข้าเคยเห็นดาวอย่างเจ้าดวงจันทร์ เคว้งคว้างล่องลอยไปในจักวาลอย่างไรจุดหมายถ้าไม่มีดาวอย่างโลก

และข้าก็เคยเห็นพระอาทิตย์อย่างเจ้า ที่สว่างกว่าเจ้า ร้อนกว่าเจ้า และดวงใหญ่กว่า
อยู่โดดเดียวอย่างไรความหมายในจักวาลนั้นเพราะไม่มีมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดไดัประโยชน์จากดาวนั้น

ในจักวาลแห่งนี้มิได้มีใครที่้เป็นใหญ่กว่าใคร หรือใครมีประโยชน์มากว่าใคร ทุกสิ่งล้วนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ ทุกอย่างล้วนเกี่ยวพันกันในเรื่องราวนั้นๆ

เมื่อคุณประสบความสำเร็จคุณจะพยายามต่อไปหรือไม่

เมื่อคุณประสบความสำเร็จคุณจะพยายามต่อไปหรือไม่


คุณคงเคยได้ยินคำที่ว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น

แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อคุณประสบความสำเร็จในระดับที่คุณตั้งเป้าหมายไว้แล้ว คุณจะอยากประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่สูงกว่าเป้าหมายเดิมแน่นอน

นั่นคือความหมายของคำว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความพยายามอยู่ที่นั่น

เพราะเมื่อคุณประสบความสำเร็จในเป้าหมายแรกนั้น เป้าหมายต่อไปมักจะยากกว่าเสมอ คุณต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น คุณเป็นนักปีนเขาเอเวอเรสต์(ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก) เมื่อคุณปีนไปชั้นแรกคุณจะใช้ความพยายามในระดับต้น เมื่อคุณปีนไปชั้นที่2 คุณจะต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้น และเมื่อคุณปีนขึ้นไปชั้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆคุณต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

เพราะคุณต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้าย ทั้งความกดอากาศ อุณหภูมิที่หนาวเย็น อากาศที่เบาบาง น้ำแข็งกัดจนเป็นแผลและความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการปีนเขาเป็นเวลานาน

เห็นไหมครับคุณต้องยิ่งต้องพยายามยิ่งขึ้น

ชีวิตก็เช่นกันเมื่อคุณเมื่อคุณเริ่มประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าคุณทำงานประจำคุณได้ขึ้นเป็นหัวหน้า ความพยายามที่คุณมีก็ต้องเพิ่มมากขึ้น เมื่อสำเร็จจนเป็นเจ้าของกิจการยิ่งต้องมีควาพยายามมากกว่าเดิมเพื่อให้กิจการของคุณอยู่รอด

"ความพยายามไม่มีวันหยุดแม้ในวันที่คุณประสบความสำเร็จแล้วก็ตาม"

แต่ในระหว่างที่คุณปีนเขาให้เหลียวมองวิวทิวทัศน์รอบตัวแล้วเสพบรรยากาศที่ดีๆไปด้วย

ชีวิตที่จะประสบความสำเร็จก็ต้องการช่วงเวลาแห่งความสุขและการพักผ่อนเช่นกันเช่นกัน

ขอให้พยายามกันต่อไปนะครับสู้ๆทุกคนครับ

กรอบความคิด

กรอบความคิด

เราเคยเรียนรู้อยู่ว่ากรอบความคิดมีแค่ 2 แบบ คือ



1.ความสำเร็จ
2.ความล้มเหลว

ณ โรงเรียนเด็กชั้นประถมปีที่ 4 คุณครูได้ตั้งโจทย์ที่ยากที่สุดให้กับนักเรียนเพื่อทดสอบความสามารถของเด็กๆ ในขณะที่เด็กๆกำลังแก้ไขโจทย์ที่ยากที่สุดอยู่นั้น ได้มีเด็กชายหนึ่ง ตะโกนขึ้นว่า

เย้ "ดีใจจังเลย ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จจนได้"

ในขณะเดียวกัน เด็กชายอีกคนหนึ่ง ก็ได้ตะโกนขึ้นว่า

"ฉันคิดว่ามันน่าสนุกจังเลย ฉันคงต้องหาข้อมูลให้มากว่านี้"

คุณครูถึงกับยืนงง ด้วยสีหน้าที่สงสัยว่า มีความคิดแบบนี้ด้วยหรือ
เด็กคนนี้ไม่ได้คิดว่าตนเองกำลังล้มเหลว แต่เค้ากำลังเรียนรู้กับความล้มเหลว

เรื่องนี้สอนให้เห็นว่าเพียงแค่คุณพลิกความคิดที่ว่าคุณล้มเหลว ให้กลายเป็นว่าคุณกำลังเรียนรู้
และสนุกกับมัน ก็จะไม่มีคำว่าล้มเหลวเกิดขึ้นในชีวิตคุณ